ถึงเวลา”กองทัพปรับตัว”
ในระยะที่ผ่านมา “สีเขียว” มีบทบาทดันคนของตน ก้าวสู่เก้าอี้สำคัญๆ หน่วยงานต่างๆเต็มไปหมด ทำให้เกิดนายทหาร รับใช้การเมืองมากกว่ารับใช้ กองทัพ
ส่องกล้องมองไปถึงผลงาน การเปิดบัญชีทรัพย์สินของบรรดา นายพลดาวเต็มบ่า ที่ก้าวสู่การเมือง เปิดออกสู่สาธารณชน ทั้ง” นก,เนื้อ,นํ้า,” ล้วนมีเงินถุงเงินถัง ..น่าขนลุก !
จนมีเสียงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกองทัพ ปรับโครงสร้าง เหมือนเช่นการเมืองบ้าง ถามหาแบบอย่าง “ทหารอาชีพ” เรียกร้องให้หมดยุค “นายพลเฟ้อ” พร้อมแสดงความเห็นใจ ชื่นชมบรรดา ทหารหาญที่ปฏิบัติภารกิจ พื้นที่ชายแดนใต้
วันนี้”กองทัพไทย” มีนายพล ล้นประจำการ มากกว่ากองทัพอเมริกัน มากกว่ากองทัพรัสเซีย และจีนเสียอีก ! โดยเฉลี่ยเท่ากับนายพล 1คนต่อกำลังพล 214 นาย
000 000 000
วัฒนธรรม “กองทัพไทย” ยังติดกับดัก ในระบอบอุปถัมภ์ นับวันถูกถักทอ อยู่ใน”กรงเล็บอำนาจ” จึงปล่อยให้นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่การงานเพียงพอ
ติดยศหรูชูคอ “ดีครับนาย ได้ครับทั่น” ไปวันๆตามสนามกอล์ฟต่างๆ “กองทัพจิ๋วแต่แจ๋ว” ที่วาดหวังพัฒนาเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ในการปฏิบัติภารกิจ จึงยังไม่เป็นรูปธรรม
เมืองไทยมีนายพลล้นประจำการ มากที่สุดในโลก ! ทั้งอัตราจอมพล,พล.เอก,พลเรือเอก,พลอากาศเอก, 3เหล่าทัพ หากเหมาโยงไปถึงสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการทหารสูงสุดอีก นับกันไม่หวาดไหว!
อันที่จริง นายทหารชั้นผู้ใหญ่ระดับนายพล ถือเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ สะสมประสบการณ์ ในอาชีพทหารมาแล้ว คนละหลายสิบปี ถือเป็นทรัพยากรบุคคลระดับสูง ในสังคมไทย กว่าจะจบเป็นนายทหาร เติบโตตามสายงาน ป็นนายพล !
ประเทศชาติ ต้องใช้งบประมาณ จากภาษีอากรประชาชน เป็นต้นทุนผลิตจำนวนมหาศาล !
เราอยากเห็นภาพนายพล ที่เป็นแบบอย่าง เป็นทหารนักสู้ ทหารอาชีพสมบรูณ์แบบ นักคิด-นักวางแผน ฉลาดหลักแหลม สมกับที่เรียนด้านเสนาธิการ และรอบคอบ มีการพัฒนาโครงสร้าง เพื่อให้ลูกหลาน รุ่นหลังอยากเดินตาม ส่งผลต่อทัศนะคติของทหารรุ่นใหม่ !
“ครับ” !ถึงเวลาที่กองทัพ” ต้องปรับตัว” !