ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีต้อนรับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชแต่งตั้ง พระมงคลพัฒนาภรณ์ ให้ดำรงตำเเหน่ง รองเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร
วันที่ 4 กันยายน 2565 เวลา 17.00 น. ณ วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระพรหมกวี เจ้าคณะภาค 3 เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีต้อนรับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราส แต่งตั้ง พระมงคลพัฒนาภรณ์ ให้ดำรงตำเเหน่ง รองเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีพระมหาเถระ พระและเถระ ได้แก่ พระพรหมเสนาบดี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา ราชวรวิหาร พระธรรมวชิรมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร พระเทพศาสนาภิบาล เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง พระเทพสาครมุนี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าอาวาสวัดเจษฎาราม พระอารามหลวง พระบวรรังษี รองเจ้าคณะภาค 14 วัดระฆังโฆสิตาราม ร่วมพิธี และมีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์เจริญชัยมงคลคาถา อาทิ พระเทพคุณาภรณ์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 13 เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร พระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร พระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม พระอารามหลวง โดย นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร นายอำเภอบ้านแพ้ว ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชน คณะกรรมการวัด และศิษยานุศิษย์ ร่วมในพิธี
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย อ่านพระบัญชา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ 25/2565 มีใจความโดยสรุปว่า “ให้ พระมงคลพัฒนาภรณ์ (ดิเรก) ฉายา ปิติทานนฺโท อายุ 64 พรรษา 43 วิทยฐานะ นักธรรมเอก พุทธศาสตรบัณฑิต (กิตติมศักดิ์) วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ตำบลยกกระบัตร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ปัจจุบันมีตำแหน่งในทางปกครองคณะสงฆ์ เป็น เจ้าคณะอำเภอบ้านแพ้ว ดำรงตำแหน่ง รองเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร มีอำนาจหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ในเขตจังหวัดของตน ตามที่เจ้าคณะจังหวัดมอบหมาย ขอจงถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระพุทธศาสมา ตลอลกาลนาน เทอญ แต่งตั้ง ณ วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2565”
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานมอบพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งพระมงคลพัฒนาภรณ์ (ดิเรก ปิติทานนฺโท) ให้ดำรงตำแหน่ง รองเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร และมอบพัดรองที่ระลึก ณ พระมหามณฑปวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร กรุงเทพมหานคร จากนั้น พระมงคลพัฒนาภรณ์ (ดิเรก ปิติทานนฺโท) ได้เดินทางมายังวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร และได้กราบสักการะองค์หลวงพ่อโตในวิหาร สักการะอัฐิพระมงคลพิพัฒน์ อดีตเจ้าอาวาสและบูรพาจารย์ แล้วเข้ากราบพระประธานในพระอุโบสถ จากนั้นคณะศิษยานุศิษย์ต่างร่วมกันแห่พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช ไปยังศาลาพิพัฒน์สาครธรรม โดยภายหลังเสร็จสิ้นพิธีฯ คณะศิษยานุศิษย์ ได้เข้าร่วมถวายมุทิตาสักการะแด่ พระมงคลพัฒนาภรณ์ นับเป็นสิริมงคลกับพี่น้องพุทธศาสนิกชนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประวัติของท่านเจ้าคุณพระมงคลพัฒนาภรณ์ มีนามเดิมว่า ดิเรก นามสกุล ปิติทานันท์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2501 ปัจจุบันอายุ 64 ปี เมื่อท่านเจริญอายุเข้าสู่ปีที่ 21 ได้มีศรัทธาบรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ตำบลยกกระบัตร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2522 โดยมี พระครูพิพัฒน์สาครธรรม วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร เป็น พระอุปัชฌาย์ พระครูปัญญาสาครธรรม วัดโรงเข้ เป็น พระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสังฆรักษ์ชุ่ม วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร เป็น พระอนุสาวนาจารย์
ด้านการศึกษา เมื่อปี 2517 สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดประดู่ในทรงธรรม ต่อมาปี 2524 สอบได้นักธรรมชั้นเอก วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร สำนักเรียนคณะจังหวัดสมุทรสาคร และในปี 2553 ได้รับปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต (กิตติมศักดิ์) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ด้านการปกครอง ในปี 2526 ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร และเลื่อนเป็นรองเจ้าอาวาสวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร และเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ในปี 2528 และในปี 2537 เป็นรองเจ้าคณะตำบลยกกระบัตร ปี 2539 เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาในปี 2542 เป็นเจ้าคณะตำบลยกกระบัตร ปี 2552 เป็นเจ้าคณะอำเภอบ้านแพ้ว และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ในปี 2559
สำหรับในด้านสมณศักดิ์ ปี 2530 ได้รับแต่งตั้งเป็น พระครูสังฆรักษ์ ฐานานุกรมในพระราชสาครมุนี วัดเจษฎาราม จังหวัดสมุทรสาคร ต่อมาในปี 2537ได้รับการเลื่อนเป็น พระครูศัพพวิมล ฐานานุกรมใน พระธรรมวโรดม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร และในปี 2546 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นโท ที่ พระครูสาครพิพัฒนาภรณ์ ปี 2551 เลื่อนเป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม ปี 2555 เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอ ชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม และเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2559 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มาหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระมงคลพัฒนาภรณ์
กองสารนิเทศ สป.มท.
วันที่ 4 ก.ย. 2565